เชื้อแปปิโลมา หรือเอชพีวี (HPV) เป็นสาเหตุป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อเนื้อเยื่อบุผิว และก่อที่ก่อโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย การติดเชื้อเอชพีวีจะไม่แสดงอาการและอาจหายเองได้ภายใน 1 – 2 ปี แต่อาจมีบางครั้งการติดเชื้อบางตัวยังคงอยู่นาน โดยการติดเชื้อแอชพีที่อยู่นานอาจทำให้เกิดรอยโรคก่อนมะเร็ง และมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งที่อวัยวะเพศและโรคอื่นๆ
เชื้อเอชพีวี ทำให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง
ในผู้หญิง | ในผู้ชาย |
มะเร็งปากมดลูก | มะเร็งที่องคชาต |
มะเร็งช่องคลอด | |
มะเร็งปากช่องคลอด | |
|
|
|
|
|
เชื้อเอชพีวีมีกี่สายพันธ์
ปัจจุบันพบเชื้อ HPV มากกว่า 100 สายพันธุ์ (genotypes) โดยมีประมาณ 40 สายพันธุ์เชื้อ HPV แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มได้แก่ สายพันธุ์ ที่มีความเสี่ยงต่ำ (low risk type) ไม่ทำให้เกิดมะเร็ง เช่น สายพันธุ์ 6 และ 11 ซึ่งเป็นสาเหตุร้อยละ 100 ของ หูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ และสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง (high risk type) เช่น สายพันธุ์ 16, 18, 31, 33, 35, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 68, 69, 73, 82 ทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์เยื่อบุปากมดลูกรอยโรคก่อนมะเร็ง และกลายเป็นมะเร็งในที่สุด
อุบติการณ์ ของมะเร็งที่เกิดจากเชื้อเอชพีวี
มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่ทำให้เกิดการตายเป็นอันดับหนึ่งในผู้หญิงไทย และเป็นอันดับสองของการตายที่เกิดจากมะเร็งในผู้หญิงทั่วโลกในช่วงอายุ 20 – 39 ปี โดยอุบัติการณ์ของมะเร็งปากมดลูกเท่ากับ 24.5 คน ต่อ 100,000 คนของประชากรหญิงไทยต่อปี โดยในแต่ละปีพบผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกจำนวนมากถึง 10,000 คน และในทุกๆ 1 วัน ผู้หญิงไทย เสียชีวิต 12 คน และโดยประมาณ 27,000 คนที่เป็นมะเร็งที่เกิดจากการติดเชื้อเอชพีวี ในประเทศสหรัซอเมริกา และมากกว่า 500,000 คนทั่วโลกที่ได้รับการวินิฉัยว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก
เชื้อเอชพีวี พบได้ที่ไหนบ้าง
ส่วนใหญ่เชื้อเอชพีวีติดต่อจากเพศสัมพันธ์หรือการสัมผัสที่รุงแรงที่อวัยวะเพศ หรือติดต่อผ่านจากแม่สู่ลูกระหว่างคลอด
การป้องกันการเกิดโรคและลดความเสี่ยงของมะเร็งที่เกิดจากเชื้อเอชพีวีได้อย่างไร
สามารถป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี และโรคที่เกิดจากการติดเชื้อเอชพีวีได้โดยการฉีดวัคซีนเอชพีวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งปากมดลูกนั้นสามารถป้องกันการตรวจคัดกรอง เช่น การตรวจแป๊บสเมียร์ เพื่อหาความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก และการฉีดวัคซีนเอชพีวี เพื่อป้องกันต้นเหตุของมะเร็งคือเชื้อเอชพีวี